KriengsakLawyer.com

ทนายเกรียงศักดิ์ พาเหยื่อสาวแพะรอบ 2 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกรมสรรพากร ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ อายุ 35 ปี ได้หอบเอกสารเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี หลังจากทีกรมสรรมพากร ได้ส่งหนังสือบังคับคดีให้ น.ส.นันทวรรณ ผู้เสียหายล้มละลาย ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายมิได้กระทำผิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.นันทวรรณ ได้ถูกกรมสรรพากรฟ้อง ในฐานความผิด ร่วมกันโดยเจตนาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร เป็นจำนวนเงิน 3.2 ล้าน ทำให้รัฐขาดรายได้ ในฐานะที่ น.ส.นันทวรรณ มีชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด ตามปรากฏในเอกสาร กรมสรรมพากร จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการประทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ให้ดำเนินการฟ้องร้อง น.ส.นันทวรรณ ทั้ง ๆ ที่ น.ส.นันทวรรณ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีตำแหน่งเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด เป็นแค่เพียงพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น มีรายได้เพียงวันละ 300 กว่าบาท ซึ่งเคยเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี มาแล้วครั้งนี้จนกระทั่งศาลอาญามีนบุรีมีการสืบเสาะของพนักงานอัยการจังหวัดมีนบุรี จนพบว่า น.ส.นันทวรรณ จำเลยในคดีนี้ไม่กระทำผิดตามฟ้อง และไม่เคยเป็นกรรมการ และไม่เคยรู้จักบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 มาก่อนประกอบกับจำเลยที่ 2 ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท จำเลยที่ 1 และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่อมาในวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 จึงมีคำสั่งถอนฟ้อง น.ส.นันทวรรณ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ และต่อมาในวันที่ 24 กันยายน 2563 ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และให้มีการจำหน่ายคดีออกจากสารระบบความ ซึ่งขณะนั้น น.ส.นันทวรรณ คิดว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว

ต่อมาในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 กลับมีหนังสือจากกองบังคับคดีล้มละลาย 3 กรมบังคับคดี คดีล้มละลายระหว่าง กรมสรรพากร และบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด ซึ่งหมายถึงน.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด จำเลย ส่งมาที่บ้านของ น.ส.นันทวรรณ อีกโดบข้อความในหนังสือฉบับดังกล่าวมีข้อความว่า ด้วยคดีนี้ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยไว้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 ท่านในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ จำเลยมีหน้าที่ไปให้การเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของบริษัทจำเลย ต่อเจ้าพนักงานพิทักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 30 และให้ไปสอบสวนเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สิน ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดศรีษะเกษ สาขากันทรลักษณ์ ภายใน 7 วัน และมีกำหนดให้ชำระหนี้ในวัน 30 ธันวาคม 2563 ที่กองบังคับคดีล้มละลาย 3 ถ้าไม่ปฎิบัติหมายนี้อาจมีโทษทางอาญา การดำเนินการบังคับคดีให้จำเลยที่ 2 ล้มละลายทั้ง ๆ ที่กรมสรรพากรก็รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ในวันนี้ น.ส.นันทวรรณ จึงได้นำหนังสือฉบับดังกล่าวเข้าขอความเป็นธรรมต่อ ทนาย ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี อีกครั้งให้ช่วยแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด (จำเลยที่1) ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม และให้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรกับพวกที่เกี่ยวข้อง ในข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ซึ่งในวันนี้ ทนาย ดร.เกรียงศักดิ์ จะได้พาผู้เสียหายรายนี้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวและดำเนินคดีกับกรมสรรพากร

https://www.youtube.com/watch?v=xaAtfmpVWb4
แชร์ข่าวนี้
ข่าวกฎหมายอื่นๆ

สาวโร่ร้อง คปภ. ขอความเป็นธรรม ถูกบริษัทประกันภัยชื่อดังยกเลิกกรมธรรม์ หลังทำประกันได้ 8 เดือน ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก

วันนี้ (16 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส

คปภ.นัดคู่กรณี ”วิศวกรสาว” มาเจรจาไกล่เกลี่ย รอประวัติรักษาจากแพทย์ มาประกอบการพิจารณาว่าคืนกรรมธรรม์ฯ หรือไม่

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.65 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุ

ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี

คัมภีย์กฎหมาย เข้าใจง่าย
ตรงประเด็น เหมือนมีนักกฎหมาย
ให้คำปรึกษาอยู่ข้างๆ ส่งฟรีทั่วไทย

CHANGE LANGUAGE